กรมการปกครองให้อำเภอดำเนินการขับเคลื่อน “โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านพัฒนายั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ซึ่งเป็นการนำภาคีเครือข่ายที่ได้ร่วมกัน เข้ารับการศึกษาอบรมได้ลงสู่สนาม การพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน อย่างเป็นรูปธรรมผ่านการกำหนดกิจกรรม “หนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านพัฒนายั่งยืน” โดยเป็นการให้แต่ละอำเภอดำเนินคัดเลือกหมู่บ้านในแต่ละ ตำบล/ชุมชน โดยอำเภออ่าวลึกได้กำหนดหมู่บ้านนำร่องจำนวน 9 หมู่บ้าน ที่ต้องได้รับการพัฒนามาเพื่อให้ภาคีเครือข่ายร่วมกันลงพื้นที่ และกำหนดโครงการ/กิจกรรม พัฒนาตามสภาพปัญหาที่แตกต่างกัน และอำเภออ่าวลึกได้ดำเนินการจัดทำโครงการอำเภอเข้มแข็ง หมู่บ้านยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้ดำเนินการจัดทำเป็น 3 กิจกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องของตำบล/ชุมชน คือ กิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” กิจกรรม “หน้าบ้านสวย หลังบ้านสวน” และกิจกรรม “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคีเครือข่ายในการระดมสมอง รับฟัง และร่วมกันเสนอความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาเพื่อมุ่ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้าน ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีรายได้ มีอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เกิดความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก เกิดความรักความสามัคคี พร้อมทั้งอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของโครงการฯ กรมการปกครองได้มีหนังสือสั่งการให้อำเภอดำเนิน“โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” และ“โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ให้เป็นหมู่บ้านยั่งยืน และเป็นพื้นที่แห่งความสุขอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ดังนั้นอำเภออ่าวลึกจึงได้จัดทำโครงการ ขยายผล/ต่อยอดการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเสริมสร้างพลังความร่วมมือภาคีเครือข่ายควบคู่การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทรงงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป